ที่มาของเพลง Wedding March

Wedding-March-Note

Wedding-March-Note

งานแต่งงานอันสวยงามนับว่าเป็นความฝันอันสูงสุดอย่างหนึ่งของผู้หญิงเกือบทุกคน ไม่ว่าใครก็ต้องการมีงานแต่งงานอันสวยงาม สร้างครอบครัวอันอบอุ่น อยู่เคียงข้างกันไปจนแก่เฒ่าด้วยกันทั้งนั้น องค์ประกอบหนึ่งในงานแต่งงานยุคปัจจุบันนี้ขาดไม่ได้เลยเป็นเรื่องของเสียงเพลง เชื่อว่าเราคงเคยได้ยินเพลงแต่งงานเป็นการบรรเลงดนตรีสากลแน่ๆ ถามว่ารู้ไหมว่าเพลงอะไร

เพลงแต่งงานชื่อว่าอะไร

เพลงงานแต่งงานจริงๆ มีการนักประพันธ์สร้างไว้หลายเพลง เพลงนิยมสุดได้แก่ Wedding March เพลงนี้หากนึกไม่ออกให้นึกภาพตามว่าเป็นเสียงเมาท์ออร์แกน ทำนองว่า ตือ ตือ ตะ ดือ ตือ ตื้ด ตะ ดือ นั่นเอง เพลงนี้จัดว่าเป็นเพลงประจำงานแต่งทั่วโลกเลยก็คงไม่ผิดนัก ไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหน พอเวลาเพลงนี้ขึ้นมาเรามักจะรู้กันเองโดยอัตโนมัติเลยว่าเป็นงานแต่งงาน

ใครเป็นผู้แต่งเพลงนี้

เพลงนี้ใครเป็นผู้แต่ง หากเราไม่ได้อยู่ในวงการเพลงก็คงจะนึกไม่ออก ผู้แต่งเพลงนี้คือ ริชชาร์ท วากเนอร์ นักแต่งเพลงชาวเยอรมัน โดย wedding march นี้ตัดมาจากอุปรากร เรื่อง โลเอินกรีน ของวากเนอร์ เค้าตัดมาจาก องก์ที่ 3 ของการแสดง ซึ่งเพลงท่อนนี้วากเนอร์ แต่งไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1850 โน่นเลยมันยังได้รับความนิยมมาถึงตอนนี้ได้แม้จะผ่านมาตั้ง 170 ปี

เพลงนี้ในงานแต่ง

เพลง wedding march นี้ด้านดนตรีจะเป็นการเล่นด้วยเมาท์ออร์แกนเป็นหลัก บางกลุ่มจะมีการร้องเพลงประสานเสียงควบคู่กันด้วย หากงานแต่งงานใหญ่โตจะมีการนำเครื่องดนตรีอื่นมาบรรเลงประกอบคู่กันด้วยเป็นวงใหญ่ เพลงนี้เวลานำไปใช้ในงานแต่งจะเอาไว้สำหรับเวลาเจ้าสาวเดินเข้ามาในพิธีแต่งงาน ขณะเธอกำลังเดินพรมแดงเข้ามาในโบสถ์พร้อมกับพ่อเจ้าสาว หากใครเคยฟังเพลงนี้ในงานแต่งงานชาวตะวันตกในโบสถ์ไม่ว่าเจ้าสาวจะเป็นใครหากเดินมาพร้อมเพลงนี้ ความสวยงามของเธอจะเพิ่มทบเท่าทวีคูณ ชั่วขณะนั้นเราจะมองว่าเธอไม่ได้เป็นหญิงสาวอีกต่อไป เธอจะได้กลายร่างเป็นนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ที่ได้ลงมาแต่งงานกับชายหนุ่มที่ตนรัก เพลงนี้จะเป็นเหมือนเสียงแตรจากสรวงสวรรค์ เหล่าเทวดาจะออกมาอวยชัยให้พรพบกับชีวิตหลังแต่งงานอันสวยงาม สมบูรณ์ มีความสุข อีกนัยหนึ่งเสียงเพลงนี้ก็เหมือนจะเป็นการบอกลาเธอจากสรวงสวรรค์ที่เธอจากมา มันคล้ายกับนวนิยายยังไงยังงั้นเลย

ความโด่งดังของเพลง

ด้วยความรู้สึกดังกล่าว ทำให้ wedding march ของ วากเนอร์ กลายเป็นเพลงประจำงานแต่งสไตล์ตะวันตกไปทั่วโลก เกือบทุกโบสถ์จะต้องเล่นเพลงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงานของเหล่าขุนนาง พ่อค้า คหบดี ลูกท่านหลานเธอ จนถึงคนธรรมดาทั่วไป ต่างก็เลือกใช้เพลงนี้ในการสื่อความหมายงานแต่งงานทั้งนั้น หากหน้าหนาวนี้เราได้ไปงานแต่งงานลองสังเกตดูว่าจริงไหม